เปิดผลสำรวจจาก บริษัท มาสเตอร์การ์ด เวิลด์ไวด์ เผย กรุงเทพฯ รั้งอันดับ 3 เมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวมากสุดในโลก เป็นรองแค่ กรุงลอนดอน และกรุงปารีส
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา บริษัท มาสเตอร์การ์ด เวิลด์ไวด์ ได้เปิดเผยผลการจัดอันดับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวมากที่สุดในโลก โดยดูจากดัชวีชี้วัดในด้านต่าง ๆ รวบรวมข้อมูลจากสายการบิน 87 แห่ง คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งชาติของประเทศต่าง ๆ และสหประชาชาติและตัวแทนที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก องค์กรการท่องเที่ยวโลก โดยผลการจัดอันดับปรากฏว่า กรุงเทพฯ ติดอยู่ในอันดับ 3 ของเมืองที่น่าเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการคาดการณ์ว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 12.2 ล้านคน
ด็อกเตอร์ ยูวา เฮดริก-หว่อง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ บริษัท มาสเตอร์การ์ด เวิลด์ไวด์ กล่าวว่า การจัดอันดับดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็นถึงบทบาทของเมืองใหญ่ซึ่งเด่นชัดขึ้นมาทั่วโลก โดยกรุงเทพมหานครมีวัฒนธรรมที่เปิดกว้างเป็นจุดแข็งที่ทำให้สามารถรั้งอันดับต้น ๆ ของเมืองน่าเที่ยว และเป็นเหตุผลสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวยุโรปและชาวอเมริกันได้เป็นจำนวนมาก โดยประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยบางอย่างนั้นไม่สามารถหาได้ในมาเลเซียหรือแม้แต่ในประเทศจีน
ข้อมูลของมาสเตอร์การ์ด ระบุด้วยว่า ประเทศไทยยังครองอันดับ 3 ของประเทศที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงสุด คือ 19.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 579 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากปีที่แล้วที่อยู่อันดับ 4 ถึง 16.6 เปอร์เซ็นต์ ตามหลังเพียงกรุงลอนดอน และนครนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ตามมาด้วยสิงคโปร์ และซิดนีย์ในอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ
สำหรับเมืองที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินมาทางมาเที่ยวมากที่สุด 10 อันดับ ประจำปี 2555 มีดังนี้
1. กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ 16.9 ล้านคน
2. กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 16.0 ล้านคน
3. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 12.2 ล้านคน
4. สิงคโปร์ซิตี้ ประเทศสิงคโปร์ 11.8 ล้านคน
5. เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี 11.6 ล้านคน
6. ฮ่องกง 11.1 ล้านคน
7. กรุงมาดริด ประเทศสเปน 9.7 ล้านคน
8. เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 8.8 ล้านคน
9. เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี 8.1 ล้านคน
10. กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย 8.1 ล้านคน
สำหรับเมืองที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงสุด 10 อันดับ มีดังนี้
1. กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ 21.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
2. เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา 19.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
3. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 19.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
4. กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 17.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
5. สิงคโปร์ซิตี้ ประเทศสิงคโปร์ 12.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
6. เมืองลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา 12.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
7. กรุงมาดริด ประเทศสเปน 11.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
8. เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย 11.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
9. เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี 10.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
10. กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ 10.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษที่มาสเตอร์การ์ดจัดให้ครองอันดับ 1 มีดัชนีชี้วัดที่สำคัญจากการจัดงานเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบรอบ 60 ปี ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา รวมถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จะจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ในวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 12 สิงหาคม ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากถึง 16.9 ล้านคน และน่าจะมีมูลค่าการใช้จ่ายสูงถึง 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ บริษัท มาสเตอร์การ์ด วิเคราะห์ว่า มูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นราว 5.7 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่อยู่ใน 20 อันดับแรก ในปี 2555 นั้นจะสามารถดึงเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้สูงขึ้นถึง 10.6 เปอร์เซ็นต์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา บริษัท มาสเตอร์การ์ด เวิลด์ไวด์ ได้เปิดเผยผลการจัดอันดับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวมากที่สุดในโลก โดยดูจากดัชวีชี้วัดในด้านต่าง ๆ รวบรวมข้อมูลจากสายการบิน 87 แห่ง คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งชาติของประเทศต่าง ๆ และสหประชาชาติและตัวแทนที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก องค์กรการท่องเที่ยวโลก โดยผลการจัดอันดับปรากฏว่า กรุงเทพฯ ติดอยู่ในอันดับ 3 ของเมืองที่น่าเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการคาดการณ์ว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 12.2 ล้านคน
ด็อกเตอร์ ยูวา เฮดริก-หว่อง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ บริษัท มาสเตอร์การ์ด เวิลด์ไวด์ กล่าวว่า การจัดอันดับดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็นถึงบทบาทของเมืองใหญ่ซึ่งเด่นชัดขึ้นมาทั่วโลก โดยกรุงเทพมหานครมีวัฒนธรรมที่เปิดกว้างเป็นจุดแข็งที่ทำให้สามารถรั้งอันดับต้น ๆ ของเมืองน่าเที่ยว และเป็นเหตุผลสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวยุโรปและชาวอเมริกันได้เป็นจำนวนมาก โดยประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยบางอย่างนั้นไม่สามารถหาได้ในมาเลเซียหรือแม้แต่ในประเทศจีน
ข้อมูลของมาสเตอร์การ์ด ระบุด้วยว่า ประเทศไทยยังครองอันดับ 3 ของประเทศที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงสุด คือ 19.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 579 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากปีที่แล้วที่อยู่อันดับ 4 ถึง 16.6 เปอร์เซ็นต์ ตามหลังเพียงกรุงลอนดอน และนครนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ตามมาด้วยสิงคโปร์ และซิดนีย์ในอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ
สำหรับเมืองที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินมาทางมาเที่ยวมากที่สุด 10 อันดับ ประจำปี 2555 มีดังนี้
1. กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ 16.9 ล้านคน
2. กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 16.0 ล้านคน
3. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 12.2 ล้านคน
4. สิงคโปร์ซิตี้ ประเทศสิงคโปร์ 11.8 ล้านคน
5. เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี 11.6 ล้านคน
6. ฮ่องกง 11.1 ล้านคน
7. กรุงมาดริด ประเทศสเปน 9.7 ล้านคน
8. เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 8.8 ล้านคน
9. เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี 8.1 ล้านคน
10. กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย 8.1 ล้านคน
สำหรับเมืองที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงสุด 10 อันดับ มีดังนี้
1. กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ 21.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
2. เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา 19.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
3. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 19.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
4. กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 17.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
5. สิงคโปร์ซิตี้ ประเทศสิงคโปร์ 12.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
6. เมืองลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา 12.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
7. กรุงมาดริด ประเทศสเปน 11.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
8. เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย 11.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
9. เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี 10.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
10. กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ 10.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษที่มาสเตอร์การ์ดจัดให้ครองอันดับ 1 มีดัชนีชี้วัดที่สำคัญจากการจัดงานเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบรอบ 60 ปี ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา รวมถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จะจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ในวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 12 สิงหาคม ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากถึง 16.9 ล้านคน และน่าจะมีมูลค่าการใช้จ่ายสูงถึง 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ บริษัท มาสเตอร์การ์ด วิเคราะห์ว่า มูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นราว 5.7 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่อยู่ใน 20 อันดับแรก ในปี 2555 นั้นจะสามารถดึงเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้สูงขึ้นถึง 10.6 เปอร์เซ็นต์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม